Loading color scheme

เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

sing 15 2 2561

 

H.E. Mrs. Chua Siew San, the Ambassador of the Republic of Singapore to the Kingdom of Thailand paid a courtesy called on Clin. Prof. Udom Kachintorn, M.D., to congratulate him on his appointment as Deputy Minister of Education and to confer about educational cooperation at MOE, 12 February 2018.

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 16.00 น. นางฉั่ว ซิ่ว ซาน (H.E. Mrs. Chua Siew San) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายอุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งและหารือความร่วมมือด้านการศึกษา ณ ห้องรับรอง 2 อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ไทยและสิงคโปร์เปรียบเสมือนประเทศบ้านพี่เมืองน้อง เนื่องจากมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมายาวนาน สิงคโปร์เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างขีดความสามารถของทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาด้านอื่น ๆ ที่ไทยสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ เพื่อนำมาเป็นแบบอย่างในการพัฒนาประเทศได้หลายประการ และได้กล่าวขอบคุณที่สิงคโปร์ได้ให้การสนับสนุนความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกันมาอย่างต่อเนื่องทุกระดับ สำหรับด้านการอุดมศึกษา ที่ผ่านมา สถาบันอุดมศึกษาของไทยและสิงคโปร์มีความร่วมมือในหลากหลายสาขา อีกทั้งมีการเดินทางเยือนระหว่างกันหลายครั้ง จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบุคลากรของทั้งสองประเทศจะได้เรียนรู้และแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน เพื่อพัฒนาการศึกษา ประเทศชาติ และนำไปสู่การพัฒนาภูมิภาคอาเซียนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

          เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ฯ ได้แสดงความยินดีแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ และกล่าวว่าสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษาเป็นอันดับแรก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติน้อยมาก จึงต้องเน้นพัฒนาและลงทุนกับทรัพยากรบุคคลเป็นสำคัญ โดยให้การศึกษาแก่ประชาชนทุกคนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการช่วยพัฒนาประเทศ สำหรับความร่วมมือด้านการศึกษา รัฐบาลสิงคโปร์ได้สนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียนใน 2 ระดับการศึกษา ได้แก่ ระดับมัธยมศึกษาและระดับอุดมศึกษา เพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบการศึกษาให้แก่ประเทศดังกล่าว โดยมีนักเรียนไทยได้รับทุนและเดินทางไปศึกษาที่สิงคโปร์ประมาณ 100-200 คน นอกจากนี้ ไทยและสิงคโปร์มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดภายใต้การประชุมโครงการความร่วมมือระหว่างหน่วยราชการไทย – สิงคโปร์ (Civil Service Exchange Programme – CSEP) ซึ่งเป็นเวทีที่มีประโยชน์ต่อการดำเนินความร่วมมือระหว่างกันใน 13 สาขา รวมถึงด้านการศึกษา ล่าสุด สิงคโปร์เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ เมื่อเดือนสิงหาคม 2560 และครั้งต่อไป กระทรวงการต่างประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาวันและเวลาที่เหมาะสมsing2 15 2 2561          ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษาที่สิงคโปร์มีความเชี่ยวชาญ ดังนี้
    1. ด้านอุดมศึกษา : รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวถึงการจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษาในอนาคตของไทยว่า เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านอุดมศึกษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากการมีกระทรวงศึกษาธิการเพียงแห่งเดียวที่ดูแลรับผิดชอบทุกระดับการศึกษา ทำให้ยากต่อการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษาจะช่วยพัฒนาการอุดมศึกษาให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 นอกจากนี้ ได้กล่าวชื่นชมและแสดงความยินดีต่อมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore – NUS) ซึ่งได้รับการจัดอันดับจาก Times Higher Education Asia University Rankings 2018 ให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในทวีปเอเชีย
    2. ด้านอาชีวศึกษา : รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวว่า การพัฒนาการอาชีวศึกษาเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังในการพัฒนาประเทศ แต่ประเทศไทยมีปัญหาขาดแคลนผู้เรียนอาชีวศึกษาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากผู้ปกครองยังไม่เชื่อมั่นในคุณภาพอาชีวศึกษา จึงไม่นิยมส่งบุตรหลานไปเรียน อย่างไรก็ตาม กระทรวงศึกษาธิการได้พยายามปรับเปลี่ยนทัศนคติและความเชื่อมั่นของผู้ปกครอง โดยการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการอาชีวศึกษาให้สูงขึ้น
        รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (นางวัฒนาพร ระงับทุกข์) ได้กล่าวเสริมว่า สิงคโปร์เป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาด้านอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจึงได้จัดทำข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาทางด้านเทคนิค (Institute of Technical Education – ITE) และมีการจัดส่งนักเรียน นักศึกษา และครูอาชีวศึกษาไปฝึกอบรมที่สิงคโปร์จำนวนมาก
        เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ฯ กล่าวว่า ในอดีตสิงคโปร์ก็ประสบปัญหาขาดแคลนผู้เรียนอาชีวศึกษาเช่นเดียวกัน แต่รัฐบาลสิงคโปร์ได้พยายามส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาด้านอาชีวศึกษาที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เมื่อผู้เรียนจบการศึกษาแล้วจะมีทักษะและความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพที่ตรงกับความต้องการของประเทศ ทำให้มีงานทำแน่นอน รวมถึงมีการตั้งเกณฑ์การเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่สูงมาก จึงทำให้มีผู้ศึกษาหันมาศึกษาต่อด้านอาชีวศึกษาเพิ่มขึ้น การพัฒนาการศึกษาของสิงคโปร์จะดำเนินการภายใต้ปรัชญาพื้นฐาน คือ เด็กทุกคนจะต้องได้รับการศึกษา เพื่อให้สามารถหางานที่ดีทำได้ และเป็นผู้ที่มีประโยชน์ต่อสังคม
        3. ด้านการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ : รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ชาวสิงคโปร์มีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีไม่แพ้ประเทศอื่น และเป็นประเทศที่อยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยนักเรียนไทยจึงนิยมเดินทางไปศึกษาหลักสูตรภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อนที่สิงคโปร์

sing3 15 2 2561

***********************************

สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ภาพ :  สำนักงานรัฐมนตรี
12 กุมภาพันธ์ 2561